การกำจัดขนเป็นเรื่องที่หลายคนต้องจัดการอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะโกน ถอน แว็กซ์ หรือใช้ครีม ขนก็กลับมาขึ้นใหม่อยู่ดี แถมบางครั้งยังตามมาด้วยปัญหาผิว เช่น รอยดำ ตอแข็ง หรือขนคุด ทำให้หลายคนเริ่มมองหาวิธีที่เห็นผลยาวนานและอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าอย่าง “เลเซอร์กำจัดขน” ที่กลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด ด้วยการใช้พลังงานเลเซอร์ลงไปทำลายรากขนที่อยู่ใต้ชั้นผิว เพื่อยับยั้งการขึ้นใหม่ของขน ทำให้ขนขึ้นช้าลง เส้นเล็กลง จนหายถาวรในที่สุด ที่คิโยมิคลินิก เราใช้ไดโอดเลเซอร์ (Diode Laser) เทคโนโลยีแบบ 3 พลังงานในหนึ่งเดียว ครอบคลุมทุกระดับความลึกของรากขน ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ อ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว พร้อมดูแลทุกขั้นตอนโดยทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อผลลัพธ์ที่ทั้งเรียบเนียนและมั่นใจในระยะยาว
บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ “เลเซอร์กำจัดขน” ให้มากขึ้น ว่าทำงานอย่างไร ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนมีอะไรบ้าง ทำไมถึงช่วยให้ขนบางลงหรือหายถาวรได้ ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน และที่สำคัญจะพาไปรู้จักกับเทคโนโลยี Diode Laser ที่ใช้ในคิโยมิคลินิก พร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจ จนกลายเป็นโปรแกรมกำจัดขนยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็เลือก เพราะทั้งเห็นผลไว และอ่อนโยนกับทุกสภาพผิว
เลเซอร์กำจัดขนที่คิโยมิคลินิก เป็นเลเซอร์แบบไหน?
ที่คิโยมิคลินิกเราใช้เป็น ไดโอดเลเซอร์ (Diode Laser) ที่ผสาน 3 พลังงานไว้ในเครื่องเดียว ออกแบบมาเพื่อให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพสูงสุด เห็นผลเร็ว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกประเภทเส้นขน พร้อมถนอมผิวอย่างอ่อนโยน โดยคลื่นพลังงานทั้ง 3 ชนิด มีจุดเด่นที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว ทำงานผสานกันเพื่อกำจัดรากขนได้อย่างล้ำลึกและให้ผลลัพธ์ดีที่สุด ได้แก่
- Alexandrite Laser ช่วงความยาวคลื่น 755 nm ซึ่งพลังงานชนิดนี้จะสามารถลงได้ลึกกว่า และยังสามารถดูดซับเม็ดสีได้มากกว่าพลังงานประเภทอื่น ๆ เช่น IPL จึงเหมาะสำหรับการกำจัดขนที่มีเม็ดสีเข้ม เช่น ขนแขน ขนขา หรือบริเวณรักแร้ ช่วยให้ขนหลุดร่วงได้รวดเร็ว และลดโอกาสที่ขนจะขึ้นใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยปรับสีผิวให้ดูเรียบเนียน ลดความหมองคล้ำบริเวณที่ทำเลเซอร์ได้อีกด้วย
- Diode Laser ช่วงความยาวคลื่น 800-810 nm ซึ่งจะมีจุดเด่นตรงที่สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และพลังงานลงลึกถึงผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกได้ จึงสามารถกำจัดรากขนได้ดี เหมาะกับการกำจัดขนในบริเวณที่มีรากขนลึก เช่น ขาหนีบ หนวด เครา หรือขนที่ขึ้นซ้ำบ่อย โดยพลังงานที่เสถียรของ Diode Laser ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผิวเบิร์นหรือระคายเคืองหลังทำ เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย
- YAG laser ช่วงความยาวคลื่น 1064 nm เป็นคลื่นพลังงานที่เหมาะสำหรับผิวของคนเอเชีย สามารถลงลึกไปถึงชั้นใต้ผิวหนังได้มากถึง 7 mm นอกจากนี้ยังสามารถจับกับเม็ดสีของรากขนได้ดีมาก ทำให้กำจัดขนได้อย่างเกลี้ยงเกลา ลดโอกาสการเกิดขนคุดหรือผิวหนังอักเสบหลังทำเลเซอร์ได้ดีอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวแพ้ง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้ได้แม้ในบริเวณที่บอบบาง เช่น ใบหน้า รักแร้ หรือบิกินี่ไลน์ โดยไม่ทำให้ผิวไวต่อแสงหรือเกิดรอยไหม้ตามมา
ข้อดีของ Diode Laser คือ
Diode Laser เทคโนโลยีกำจัดขนยอดนิยม ช่วยกำจัดขนได้อย่างเนียนสวย และเห็นผลจริง ด้วยแสงเลเซอร์ที่ตรงไปทำลายรากขน พร้อมดูแลผิวให้เนียนนุ่ม นอกจากจะช่วยให้ขนหายไปอย่างถาวรแล้ว ยังมาพร้อมข้อดีอีกมากมายที่รู้แล้วจะเข้าใจว่าทำไมใคร ๆ ถึงเลือกวิธีนี้
- เจ็บน้อย สบายผิว
Diode Laser มาพร้อมระบบทำความเย็น (Cooling System) ในตัว โดยระบบจะทำงานควบคู่ไปพร้อมเลเซอร์ เพื่อลดความร้อน ช่วยลดความรู้สึกเจ็บหรือระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิวขณะทำหัตถการ ทำได้แม้ในบริเวณผิวบอบบาง
- ขนขึ้นน้อยลงและบางลงตั้งแต่ครั้งแรก
ขนที่เคยดกดำจะค่อย ๆ บางลง เส้นเล็กลง และขึ้นช้าลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่ครั้งแรกจะเห็นได้ชัดว่าขนเริ่มหลุดร่วงเองหลังทำ เพราะรากขนถูกทำลายจนไม่สามารถงอกใหม่ได้
- ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส
นอกจากกำจัดขนพลังงานเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์เก่า ทำให้บริเวณที่เคยหมองคล้ำจากการโกนหรือแว็กซ์ ดูขาวกระจ่างใสและสม่ำเสมอกันมากขึ้น
- ลดขนคุดและผิวหนังไก่
คนมีปัญหาขนคุดต้องปลื้ม เพราะช่วยลดขนคุดและตุ่มผิวหนังไก่ได้ดีมาก เมื่อรากขนถูกทำลาย ขนจะไม่สามารถแทงย้อนกลับใต้ผิวหนังเหมือนเดิม จึงไม่เกิดการอักเสบหรือสิวอุดตันในรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบลื่นและสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- สามารถกำจัดขนให้หายถาวรได้
หากทำต่อเนื่อง ทำให้ขนสามารถหายไปถาวรได้ เพราะรากขนถูกทำลายจนไม่สามารถงอกใหม่ มอบผิวเนียนยาวนานไร้กังวล แตกต่างจากการโกนหรือแว็กซ์ที่ต้องทำซ้ำเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเลเซอร์กำจัดขนแล้ว ก็ยังมีวิธีกำจัดขนแบบอื่นๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เช่น การโกน การถอน หรือการแว็กซ์ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อเสียและข้อจำกัดแตกต่างกันออกไป เมื่อเทียบกับเลเซอร์แล้ว วิธีเหล่านี้เป็นการกำจัดขนชั่วคราว และไม่สามารถยับยั้งการเกิดใหม่ของขนได้ถาวร ซึ่งถ้าต้องการทางเลือกที่เห็นผลในระยะยาว ผิวเรียบเนียนและขนบางลงอย่างชัดเจน การทำเลเซอร์จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
ข้อเสียของการกำจัดขนด้วยวิธีการโกน
แม้การโกนจะเป็นวิธีกำจัดขนที่ง่าย ประหยัด และทำได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มาพร้อมข้อเสียหลายอย่างที่อาจทำให้ผิวเสียมากกว่าที่คิด และต้องทำซ้ำแทบทุกวัน ดังนี้
- ผิวไม่เรียบเนียนและเป็นตอ
หลังโกนไม่นานเส้นขนจะเริ่มงอกขึ้นใหม่เป็นตอที่แข็งและสั้น ทำให้เมื่อสัมผัสรู้สึกว่าผิวไม่เรียบลื่น อีกทั้งยังเห็นเป็นเงาดำหรือจุดเล็ก ๆ บนผิว ซึ่งทำให้ผิวดูไม่สะอาดตา แม้จะเพิ่งโกนไม่นานก็ตาม
- ไม่สามารถกำจัดได้ถึงรากขน
การโกนเป็นเพียงการตัดขนเฉพาะส่วนที่โผล่พ้นผิวออกมาเท่านั้น แต่รากขนยังคงอยู่ใต้ผิวหนังเหมือนเดิม ทำให้ขนสามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้เร็ว และยังหนา แข็ง หรือดกกว่าเดิม
- หากทำแรงเกินไปอาจทำให้เป็นแผลได้
โดยเฉพาะในบริเวณที่ผิวบางหรือมีความโค้งเว้า เช่น รักแร้ หรือบิกินี่ไลน์ หากใช้แรงมากเกินไปหรือใบมีดไม่คม อาจทำให้เกิดแผลถลอก รอยแดง หรือแม้แต่บาดลึกจนเลือดออก ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือทิ้งรอยแผลเป็นได้
- ไม่เห็นผลในระยะยาว ต้องโกนซ้ำเป็นประจำ
ขนจะขึ้นใหม่ภายในไม่กี่วันหลังการโกน จึงต้องโกนบ่อย ๆ เพื่อรักษาความเรียบเนียน ส่งผลให้เสียเวลาในระยะยาว และอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแห้งลอกจากการโกนซ้ำ
- อาจทำให้เกิดขนคุดได้
การโกนอาจทำให้ขนบางเส้นงอกผิดทิศทาง ม้วนตัวกลับเข้าไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดขนคุด ซึ่งมักเป็นตุ่มแดง อักเสบ หรือมีหัวสิวเล็ก ๆ หากปล่อยไว้หรือไปแกะเกา อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเป็นรอยดำถาวร
- อาจทำให้ผิวมีความหมองคล้ำได้
การเสียดสีบ่อยครั้งระหว่างใบมีดโกนกับผิวหนัง อาจกระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวคล้ำง่ายอยู่แล้ว ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ
สำหรับท่านใดที่อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถจองคิวปรึกษาปัญหาเรื่องสิวกับคุณหมอได้ทันที ปรึกษาฟรี
ข้อเสียของการกำจัดขนขนด้วยวิธีการถอน
การถอนขนเป็นวิธีกำจัดขนที่หลายคนมองว่าได้ผลดีกว่าโกน เพราะสามารถดึงเส้นขนออกได้ถึงราก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การถอนขนก็มีข้อเสียหลายอย่างที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวในระยะยาว ดังนี้
- กำจัดขนได้ถึงรากขนแต่จะทำให้ผิวเป็นหนังไก่
การถอนขนถึงรากอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นขรุขระหรือเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผิวหนังไก่ ส่งผลให้ผิวดูไม่เรียบสวย
- ขนใหม่ขึ้นไวและเส้นหนากว่าเดิม
ขนที่งอกใหม่มักมีเส้นใหญ่และแข็งขึ้น เนื่องจากการถอนอาจกระตุ้นรากขนให้ผลิตเส้นขนที่หนากว่าเดิม
- รูขุมขนอักเสบได้ง่าย
การถอนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อที่รูขุมขน โดยเฉพาะถ้าใช้เครื่องมือไม่สะอาดหรือถอนแรงเกินไป ส่งผลให้เกิดตุ่มแดงหรืออักเสบ
- อาจทำให้บริเวณที่ถอนขนมีความดำคล้ำ
การถอนซ้ำ ๆ โดยเฉพาะในบริเวณผิวบอบบาง เช่น รักแร้หรือจุดซ่อนเร้น อาจทำให้ผิวคล้ำเสียจากแรงดึงและการระคายเคือง
- ขนใหม่ขึ้นไว ต้องถอนเรื่อยๆ
แม้จะดึงออกทั้งเส้น แต่ขนใหม่ก็ยังสามารถงอกขึ้นได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ทำให้ต้องถอนซ้ำอย่างต่อเนื่อง จนผิวระคายเคืองและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวตามมา
ข้อเสียของกำจัดขนด้วยการแว็กซ์
การแว็กซ์เป็นอีกหนึ่งวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถดึงขนออกได้ทั้งเส้น และอยู่ได้นานกว่าการโกนหรือถอน แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้วิธีนี้
- เจ็บและร้อน ทำให้ผิวบอบบาง
การแว็กซ์ต้องใช้แรงดึงขนออก ทำให้รู้สึกเจ็บ โดยเฉพาะในบริเวณผิวแพ้ง่าย เช่น รักแร้หรือจุดซ่อนเร้น และอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแดง
- ขนใหม่ขึ้นไว ต้องแว็กซ์เรื่อย ๆ
แม้จะกำจัดขนถึงราก แต่ขนใหม่มักงอกกลับภายใน 1-2 สัปดาห์ ทำให้ต้องแว็กซ์ซ้ำอยู่เรื่อย ๆ และถ้าทำไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้ขนขึ้นไม่เท่ากันหรือเป็นจุด ๆ ดูไม่เรียบเนียน
- ไม่หายถาวร
การแว็กซ์เป็นเพียงการดึงขนออกจากรากเท่านั้น ไม่ได้ยับยั้งการเจริญเติบโตของรากขนเหมือนเลเซอร์ ดังนั้นขนจึงยังคงกลับมาได้ตามปกติ
- ผิวบริเวณรักแร้อาจมีความหมองคล้ำมากกว่าเดิม
โดยเฉพาะบริเวณที่บอบบางอย่างรักแร้ หากแว็กซ์บ่อย ๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและสะสมความหมองคล้ำตามมาได้
เลเซอร์กำจัดขน นิยมทำบริเวณใดบ้าง ?
หลายคนอาจเข้าใจว่าเลเซอร์กำจัดขนเหมาะแค่กับบริเวณรักแร้หรือขาเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วสามารถทำได้แทบทุกจุดบนร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่มองเห็นชัดหรือซ่อนอยู่ก็สามารถกำจัดขนด้วยเลเซอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการความเรียบเนียนแบบมั่นใจในระยะยาว ซึ่งจุดยอดฮิตที่นิยมทำกันมากที่สุด ได้แก่
- ขนรักแร้
- ขนหน้า
- ขนหนวด
- ขนเครา
- ขนแขน
- ขนขา
- ขนหน้าอก
- ขนบริเวณหลัง
- ขนในที่หลับ (บิกินี่ หรือบราซิลเลียน)
เลเซอร์กำจัดขนต้องทำกี่ครั้ง ?
สำหรับจำนวนครั้งในการทำเลเซอร์กำจัดขนนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากขนาดเส้นขนของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน โดยสามารถทำเลเซอร์กำจัดขนได้เดือนละ 1-2 ครั้ง หากทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เส้นขนจะเล็กลง ขึ้นช้าลง บางลง และหายถาวรในที่สุด
ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนมีอะไรบ้าง ?
จบปัญหาขนแบบจริงจัง ด้วยการทำเลเซอร์กำจัดขน กำจัดลึกถึงราก ลดโอกาสขนขึ้นใหม่ได้อย่างถาวร ที่คิโยมิคลินิก เราใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งเรียบเนียน ปลอดภัย และสบายผิว มาดูกันว่า ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขน มีอะไรบ้าง
- เจ้าหน้าที่จะทำการโกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เพื่อให้เส้นขนสั้นลง เหมาะกับการรับพลังงานเลเซอร์อย่างเต็มที่ และลดโอกาสการไหม้ของผิวหนัง
- ทำความสะอาดบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ช่วยป้องกันการติดเชื้อ และเตรียมผิวให้พร้อมรับการรักษา
- ทาเจลเย็นเฉพาะบริเวณที่จะทำเลเซอร์ เจ้าหน้าที่จะทาเจลเย็นเฉพาะที่ลงบนผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพื่อลดความร้อนและความเจ็บขณะยิงเลเซอร์ ทำให้รู้สึกสบายขณะทำ
- เริ่มทำเลเซอร์กำจัดขน โดยเจ้าหน้าที่จะใช้เครื่อง Diode Laser ยิงพลังงานแสงไปยังรากขนเพื่อทำลายและยับยั้งการงอกใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 15-20 นาที โดยระยะเวลาในการทำเลเซอร์จะขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
- ทำความสะอาดเจลเย็น หลังยิงเลเซอร์เสร็จ เจลเย็นจะถูกเช็ดออกเพื่อให้ผิวสะอาดและพร้อมรับการดูแลขั้นตอนถัดไป
- ทาครีมลดการระคายเคือง เป็นการปิดท้ายเพื่อช่วยบรรเทาอาการแดงหรือร้อนผิวหลังทำเลเซอร์ และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ไม่เพียงช่วยให้ขนหายไปอย่างถาวร แต่ยังช่วยให้ผิวเนียน กระจ่างใส ลดปัญหาขนคุด หนังไก่ หรือการระคายเคืองจากการโกนหรือแว็กซ์ได้ในระยะยาว หากกำลังมองหาวิธีดูแลตัวเองแบบเห็นผลจริงและปลอดภัย การทำเลเซอร์กับคลินิกที่ได้มาตรฐานคือคำตอบ
ที่ คิโยมิคลินิก เราเลือกใช้ Diode Laser 3 พลังงานในหนึ่งเดียว ที่ตอบโจทย์ทุกประเภทเส้นขนและสีผิว อ่อนโยนต่อผิว เจ็บน้อย แต่เห็นผลเร็ว พร้อมดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน ให้ทุกพื้นที่ของผิวเนียนใส แบบไม่ต้องพึ่งมีดโกนอีกต่อไป