สิวอุดตัน เกิดจากอะไร แก้ยังไง รักษาหลุมสิวจากสิวอุดตันยังไง

แค่ได้ยินคำว่า สิว หลายคนก็คงรู้สึกสะอึก เพราะไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยผู้ใหญ่ ก็ยังหนีปัญหานี้ไม่พ้น โดยเฉพาะสิวอุดตัน ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของสิวเกือบทุกชนิด ไม่แดง ไม่เจ็บ แต่กลับมากวนใจเรื่อย ๆ ทำให้ผิวดูไม่เรียบ รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด และที่น่าเจ็บใจคือบีบเท่าไหร่ก็ไม่ออก หรือออกแล้วก็ทิ้งรอยดำรอยแดงตามมาอีก จนกลายเป็นตัวการสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาผิวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวหัวหนอง หรือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นในระยะยาว

แม้ว่าสิวอุดตันจะไม่เจ็บปวดเท่าสิวอักเสบ แต่ก็เป็นสิวประเภทที่พบบ่อยที่สุด แถมยังรักษายากพอ ๆ กันด้วย โดยเฉพาะถ้าใครดูแลไม่ถูกวิธี หรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับสาเหตุของมัน เพราะคิดว่าแค่ล้างหน้าให้สะอาดก็พอ หรือทาครีมแต้มสิวก็จบ แต่จริง ๆ แล้วเบื้องหลังของสิวอุดตันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลย

สิวอุดตันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน ความมันส่วนเกินในผิว เซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสม รูขุมขนอุดตัน หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมประจำวันบางอย่างที่เราทำโดยไม่รู้ตัว อย่างการล้างหน้าบ่อยเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันผิว หรือแม้แต่การไม่เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวการไปกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันนั่นเอง

จุดที่ที่น่าเป็นห่วงคือสิวอุดตันมักไม่แสดงอาการเจ็บปวดตอนเริ่มต้น ทำให้หลายคนละเลย ไม่สนใจ  พอรู้ตัวอีกทีมันก็พัฒนาเป็นสิวอักเสบ เป็นหัวหนอง เป็นแผล และทิ้งรอยดำหรือหลุมสิวให้เราปวดใจไปอีกนาน ที่สำคัญคือ สิวอุดตันมักจะขึ้นซ้ำ ๆ ในบริเวณเดิม ๆ อย่างหน้าผาก แก้ม คาง หรือข้างจมูก กลายเป็นวัฏจักรที่ดูแลยังไงก็ไม่จบไม่สิ้นเลยค่ะ

ดังนั้นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิวอุดตันตั้งแต่ต้นจึงเป็นกุญแจสำคัญ ไม่ใช่แค่เพื่อรักษาให้หาย แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ และลดความเสี่ยงที่จะลุกลามไปเป็นสิวประเภทอื่น เพราะฉะนั้นบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “สิวอุดตัน” อย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุการเกิด ชนิดของสิวอุดตัน วิธีดูแล และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือพฤติกรรมที่ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว พร้อมเคล็ดลับง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณมีผิวใสไร้สิวแบบยั่งยืน ให้คุณกลับมาอวดผิวสวยกันค่ะ

สิวอุดตันคืออะไร? ทำไมถึงเกิดขึ้น?

“สิวอุดตัน” เป็นคำที่หลายคนได้ยินกันบ่อย โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน หรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย แต่เคยสงสัยไหมคะว่า จริง ๆ แล้วสิวอุดตันคืออะไรกันแน่ ทำไมบางคนถึงขึ้นบ่อย ขึ้นซ้ำที่เดิม แถมบางจุดก็หายยากอีกต่างหาก ดังนั้นจะขออธิบายแบบเข้าใจง่ายกันเลยดีกว่าค่ะ

สิวอุดตัน (Comedones) คือ การอุดตันของรูขุมขน ที่เกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน ซึ่งเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่รวมตัวกันในรูขุมขน ทำให้ผิวไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ เมื่อสะสมไปเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ บนผิวหน้านั่นเองค่ะ

ในระยะแรกสิวอุดตันจะไม่อักเสบ ไม่แดง ไม่เจ็บ และดูเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ หรือล้างหน้าไม่สะอาด พฤติกรรมบีบ แคะ แกะ เกา ก็อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้ามาแทรกซ้อน และกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด ซึ่งสิวอุดตันมีหลายประเภท โดยแต่ละแบบก็มีลักษณะ และการดูแลแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักกันทีละประเภทดีกว่าค่ะ

สิวอุดตันหัวเปิด (สิวหัวดำ) 

สิวชนิดนี้เกิดจากรูขุมขนที่เปิดอยู่ ทำให้ไขมันที่อุดตันภายในสัมผัสกับอากาศจนเกิดการออกซิเดชัน ส่งผลให้หัวสิวเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่นั่นก็ไม่ใช่เพราะสกปรกนะคะ แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีเมลานินเมื่อโดนอากาศนั่นเอง

สิวอุดตันหัวปิด (สิวหัวขาว)

เป็นสิวที่แอบสร้างปัญหาไม่น้อยเลยค่ะมีลักษณะจะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีขาว หรือสีเดียวกับผิว มองใกล้ ๆ จะรู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ใต้ผิว แต่มองไกล ๆ อาจแทบไม่เห็น โดยเกิดจากไขมันและเซลล์ผิวที่อุดตันในรูขุมขน แต่ไม่มีทางออกสู่ผิวภายนอก ทำให้ไม่มีได้สัมผัสกับอากาศ จึงไม่เปลี่ยนเป็นสีดำ ดูเป็นก้อนไขมันยังคงเป็นสีขาวหรือนูนใส ๆ ใต้ผิว ซึ่งถ้าไปบีบหรือเจาะสิวหัวปิดไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย และมักพัฒนาไปเป็นสิวหัวหนองถ้าไม่ได้รับการดูแล

สิวไม่มีหัว

บางคนเรียกว่าสิวอุดตันใต้ผิว หรือสิวไม่มีหัว ลักษณะคือก้อนแข็ง ๆ ใต้ผิวหนัง มองด้วยตาอาจไม่ชัด แต่เวลาลูบหรือกดจะรู้สึกถึงตุ่มแข็ง ๆ ซึ่งหากปล่อยไว้ก็มีโอกาสกลายเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต ซึ่งสิวประเภทนี้มักดื้อ ไม่ตอบสนองต่อยาทาสิวทั่วไปง่าย ๆ ต้องใช้วิธีดูแลต่อเนื่อง อย่างพวกการผลัดเซลล์ผิว การควบคุมความมัน และบางรายอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อกดหรือฉีดยาเฉพาะจุด

สาเหตุของสิวอุดตัน

สิวอุดตันไม่ได้มาเพราะโชคร้ายนะคะ แต่มันมีที่มาที่ไปชัดเจน และถ้าเราเข้าใจสาเหตุได้ดี ก็สามารถป้องกันและดูแลได้ตรงจุดมากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิวอุดตันมักเกิดจาก หลายปัจจัยร่วมกัน มากกว่าหนึ่งอย่าง ดังนี้

ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป

โดยธรรมชาติผิวหนังของเราจะมีต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมัน ออกมาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว แต่เมื่อผลิตมากเกินไป โดยเฉพาะในคนที่มีผิวมันหรือช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน น้ำมันเหล่านี้จะไหลออกไม่ทัน แล้วไปจับกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จนกลายเป็นก้อนอุดตันในรูขุมขนในที่สุดค่ะ

การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ

ร่างกายเราจะผลัดเซลล์ผิวเก่าทุกวัน แต่ถ้าการผลัดผิวทำงานได้ไม่ดี เซลล์ที่ตายแล้วก็จะสะสมอยู่บนผิว จนหลุดเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อผสมกับความมันจากผิว ก็กลายเป็นหัวสิวแบบไม่รู้ตัว จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน 

บางครั้งเราตั้งใจจะดูแลผิว แต่กลับเผลอใช้ผลิตภัณฑ์ที่แอบอุดตันผิวโดยไม่รู้ตัว เช่น พวกรองพื้นเนื้อหนา  ครีมกันแดดที่มีซิลิโคนสูง คลีนซิ่งที่ล้างไม่สะอาด สกินแคร์ที่มีน้ำมันเข้มข้น เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจมีส่วนผสมที่เรียกว่า Comedogenic หรือก่อให้เกิดสิวอุดตันทำให้รูขุมขนอุดตัน โดยที่เรายังไม่ทันเห็นผลทันทีแต่พอใช้นาน ๆ ผิวก็เริ่มนูน ตัน และตามมาด้วยสิวเม็ดเล็ก ๆ

ล้างหน้าไม่สะอาด หรือบ่อยเกินไป

หลายคนเข้าใจผิดว่าการล้างหน้าบ่อย ๆ จะช่วยลดสิว แต่อันที่จริง การล้างหน้าบ่อยเกินไปหรือถูหน้าแรง ๆ จะทำให้ผิวระคายเคือง สูญเสียน้ำมันธรรมชาติ และร่างกายจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาเพิ่ม ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ถ้าล้างหน้าไม่สะอาด โดยเฉพาะหลังแต่งหน้าหรือใช้กันแดดแต่ไม่ล้างด้วยคลีนซิ่ง ก็จะมีสิ่งตกค้างสะสมที่รูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายมากเหมือนกันค่ะ

ฮอร์โมนแปรปรวน

ตัวแปรสำคัญที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ ช่วงวัยรุ่น ก่อนหรือระหว่างรอบเดือน ความเครียดสะสม นอนดึก หรือแม้แต่บางกรณีของการกินยาคุมกำเนิดบางชนิด ทั้งหมดนี้ล้วนกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันได้มากขึ้น

สัมผัสหน้า หรือบีบสิวบ่อยเกินไป

นิสัยชอบจับหน้า เอาคางเท้าโต๊ะ หรือเผลอเอามือไปแตะหน้าบ่อย ๆ ล้วนเพิ่มโอกาสให้แบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกเข้าไปในรูขุมขนได้ง่าย บางคนก็พยายามกดสิวเองทั้งที่สิวยังไม่พร้อม กลายเป็นว่าอักเสบหนักกว่าเดิมและทิ้งรอยไว้ให้ตามรักษาอีกยาว

การเลือกอาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิต

อาหารหวานจัด มันจัด นมวัว หรืออาหารแปรรูปบางชนิดอาจกระตุ้นให้สิวขึ้นได้

นอกจากนี้ การนอนดึก พักผ่อนไม่พอ ดื่มน้ำน้อย เครียด ก็มีผลกับระบบฮอร์โมนและสุขภาพผิวโดยตรง ทำให้ผิวฟื้นตัวได้ช้าลง และสิวมีโอกาสขึ้นได้ง่าย

ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ

ใครเครียดบ่อย นอนดึก ตื่นสาย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนัก เพิ่มโอกาสในการเกิดสิวอุดตัน อีกทั้งการนอนน้อยยังทำให้ระบบฟื้นฟูผิวในตอนกลางคืนทำงานได้ไม่เต็มที่ ผิวจึงอ่อนแอและเกิดปัญหาสิวได้ง่ายขึ้น

การสวมหน้ากากอนามัยหรือหมวกกันน็อกเป็นเวลานาน

ยุคนี้สิวแมสก์กลายเป็นปัญหาสำคัญ เพราะการใส่หน้ากากตลอดวันทำให้ผิวไม่สามารถระบายอากาศได้ ความชื้นจากลมหายใจรวมกับเหงื่อจะก่อตัวเป็นสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการอุดตันและการเติบโตของแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณคางและกราม

สิวอุดตันไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นผลมาจากหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน ทั้งฮอร์โมน พฤติกรรมการดูแลผิว สภาพผิว และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เพราะฉะนั้นการจะป้องกันและดูแลสิวอุดตัน ต้องอาศัยความเข้าใจผิวของตัวเองและการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันร่วมด้วยค่ะ การดูแลผิวให้สะอาด เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้สมดุล ถือเป็นวิธีป้องกันสิวอุดตันที่ได้ผลในระยะยาวค่ะ

สิวอุดตันขึ้นที่ไหนได้บ้าง?

หลายคนมักคิดว่าสิวอุดตันจะขึ้นแค่ที่หน้าเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว สิวอุดตัน ไม่เลือกที่เกิดค่ะ ตราบใดที่ตรงนั้นมีรูขุมขนและต่อมไขมัน ก็สามารถเกิดสิวอุดตันได้ทั้งนั้น โดยบริเวณยอดฮิตที่มักจะมีปัญหา ได้แก่

• หน้าผาก : เป็นบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันสูง และมักได้รับสิ่งสกปรกจากการสัมผัสกับมือหรือสิ่งแวดล้อม อาจมีพวกเหงื่อ ความมัน และผลิตภัณฑ์ผม เช่น เจล แวกซ์ หรือสเปรย์ฉีดผม ที่ไหลลงมาอุดตันรูขุมขน

• จมูกและรอบจมูก : เป็นสิวหัวดำเนื่องจากรูขุมขนที่เปิดและสัมผัสกับอากาศ ทำให้น้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วเกิดออกซิเดชัน ซึ่งบริเวณนี้มีต่อมไขมันเยอะที่สุดของใบหน้า จึงง่ายต่อการเกิดสิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด

• คาง และแนวกราม : พื้นที่นี้เป็นที่สะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรก อีกทั้งอาจได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนโดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหรือผู้หญิงก่อนมีประจำเดือน

• แก้มและบริเวณข้างใบหน้า : ก็สามารถเกิดสิวอุดตันได้จากการปนเปื้อนของเครื่องสำอางหรือสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน หลายคนที่เป็นสิวอุดตันที่แก้ม มักมาจากการใช้เครื่องสำอาง หรือมือจับหน้าขณะทำงาน เล่นมือถือ หรือระหว่างพักผ่อน

• หน้าอก หลัง  : แม้จะไม่ใช่หน้า แต่ก็มีรูขุมขนและต่อมไขมันเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อน หรือใส่เสื้อผ้าแน่น ๆ ทำให้ระบายเหงื่อไม่ดี สิวอุดตันจึงเกิดง่ายมากในจุดเหล่านี้ได้เหมือนกันค่ะ

วิธีรักษาสิวอุดตัน

การรักษาสิวอุดตันต้องอาศัยความเข้าใจและการดูแลอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ เพราะสิวอุดตันมักไม่แสดงอาการอักเสบชัดเจน แต่ถ้าทิ้งไว้นาน ก็อาจกลายเป็นสิวอักเสบหรือทิ้งรอยหลุมได้ มาดูวิธีดูแลอย่างถูกต้องกันดีกว่าค่ะ

• ล้างหน้าให้สะอาด แต่อย่าล้างบ่อยเกินไป 

ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารที่อาจระคายเคือง หรือล้างหน้าเช้า เย็น ก็เพียงพอแล้ว โดยเลือกใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์หรือซัลเฟต เพื่อไม่ทำร้ายผิว และที่สำคัญ ถ้าแต่งหน้าหรือทากันแดด ควรใช้ คลีนซิ่งเช็ดก่อนล้างหน้า เพื่อขจัดสิ่งตกค้างที่อาจอุดตันรูขุมขน

• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอุดตัน

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ซึ่งช่วยลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ในกรณีที่สิวอุดตันเกิดขึ้นบ่อย ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว

• หลีกเลี่ยงการบีบ แกะ หรือกดเอง

หลายคนชอบบีบสิวอุดตัน แต่จริง ๆ แล้วนั่นยิ่งทำให้การอุดตันลึกขึ้น หรืออาจติดเชื้อกลายเป็นสิวอักเสบในภายหลัง ทางที่ดีควรไปพบแพทย์ผิวหนังหรือคลินิกความงามที่เชี่ยวชาญในการกดสิวอย่างถูกวิธีดีกว่าค่ะ

• ปรับพฤติกรรมประจำวัน 

เลือกเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) อย่าจับหน้าบ่อย ซักปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า และผ้าห่มเป็นประจำ ดื่มน้ำเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด

• รักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยลดสิว 

Subcision หัตถการทางการแพทย์เพื่อรักษาหลุมสิว โดยใช้เข็มขนาดเล็กพิเศษ (ปลายทู่) เจาะเข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่มีหลุมสิว เพื่อเลาะและตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวให้ยุบตัว เมื่อพังผืดถูกตัดออก ผิวบริเวณนั้นจะคลายตัว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น

Q Cross Scar หรือการแต้มกรด TCA คือเทคนิคการรักษาหลุมสิวแบบเฉพาะจุด ได้ผลดีโดยเฉพาะกับหลุมสิวลึก ซึ่งมักรักษายากกว่าทั่วไป ซึ่งเทคนิคนี้ใช้กรด TCA ความเข้มข้นสูงแต้มลงในหลุมสิวโดยตรง เพื่อกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทำให้หลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้นและผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

วิธีรักษาหลุมสิวจากสิวอุดตัน

ในกรณีที่สิวอุดตันไม่สามารถรักษาให้หายไปเองและทิ้งรอยหลุม สิวเหล่านี้อาจกลายเป็นหลุมสิวที่ลึกและทิ้งรอยแผลที่หายยาก แต่อย่าเพิ่งหมดหวังนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้มีหลายวิธีช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนได้ มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยฟื้นฟูหลุมสิวให้ตื้นขึ้น และช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้มากขึ้น

• ทายากลุ่มเรตินอยด์ หรือกรดผลไม้ (AHA) ถ้าคุณเพิ่งเริ่มดูแลหลุมสิว หรือเป็นหลุมตื้นๆ ที่เพิ่งเกิดใหม่ วิธีนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด เพราะ
  • เรตินอยด์ (Retinoid) เช่น Retinol หรือ Tretinoin มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
  • กรดผลไม้ (AHA) อย่าง Glycolic acid หรือ Lactic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ทำให้ผิวดูเรียบขึ้น ลดรอยหลุมตื้น ๆ และช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น

เหมาะกับคนที่ยังไม่อยากทำหัตถการ หรือใช้เสริมหลังทำเลเซอร์เพื่อคงผลลัพธ์ ควรใช้ต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมทากันแดดทุกวันเพื่อลดการระคายเคืองจากแสงแดด

• เลเซอร์ (Fractional Laser, CO2 Laser)

หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการรักษาหลุมสิว โดยเฉพาะหลุมระดับกลาง และลึก เพราะเลเซอร์สามารถยิงพลังงานลึกลงไปถึงชั้นผิวที่เสียหาย แล้วกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมตัวเองโดยการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ซึ่งหลังทำผลลัพธ์ที่ได้จะค่อยๆ ดีขึ้นหลังทำต่อเนื่อง 3–5 ครั้ง โดยห่างกันประมาณ 1 เดือนต่อครั้ง แต่ข้อควรระวังคือควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันรอยดำหรือแผลลึกที่อาจเกิดจากการทำแรงเกินไปค่ะ

• Juve

Juve เป็นฟิลเลอร์ที่สามารถฉีดเติมเต็มหลุมสิวได้ มีส่วนผสมหลักคือ Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ เป็นฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความเนียนให้กับผิว  ซึ่งนำมาใช้สำหรับรักษาหลุมสิวที่ลึก ริ้วรอย และรูขุมขนกว้าง เติมเต็มผิวที่มีการยุบตัวหรือหลุมสิว ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ผิวดูเต็มและเรียบเนียนขึ้น 

• Q Cross Scar หรือการแต้มกรด TCA 

วิธีนี้เหมาะกับหลุมสิวประเภท Ice Pick ซึ่งเป็นหลุมแคบและลึกมากจนการยิงเลเซอร์อาจเข้าไม่ถึง การแต้มกรด TCA ที่ความเข้มข้นสูง เช่น 80–100% ลงไปในหลุมโดยตรงจะช่วยกัดผิวบริเวณนั้นให้ลอกและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ข้อดีคือเจาะจงและแม่นยำ แต่ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะกรด TCA เข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดรอยไหม้หรือรอยดำได้หากใช้ไม่ถูกวิธี

• Subcision เทคนิคตัดพังผืดใต้หลุมสิว 

เป็นวิธีรักษาได้ลึกถึงต้นเหตุของหลุมสิวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหลุมสิวชนิดไหนก็เอาอยู่ โดยเฉพาะหลุมที่เกิดจากพังผืดดึงผิวไว้ ทำให้เกิดรอยยุบเป็นหลุม วิธี Subcision คือการใช้เข็มพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิว แล้วตัดพังผืดเหล่านั้นออก เพื่อให้ผิวบริเวณนั้นคลายตัวและเด้งขึ้นมาได้เอง แถมยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้อีกด้วยค่ะ 

การรักษาหลุมสิวไม่ใช่สูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับชนิดของหลุม ความลึก และสภาพผิวโดยรวม วิธีที่ได้ผลดีที่สุดก็อาจต้องใช้การผสมผสานหลายเทคนิคเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่สำคัญควรต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผิวหนังเสมอด้วยนะคะ

รักษาสิวที่ คิโยมิคลินิก ดีอย่างไร

“Qiyomi Clinic” เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาสิวและหลุมสิว ที่บริหารงานโดยคุณหมอที่เป็นเจ้าของคลินิกเอง ด้วยประสบการณ์ดูแลรักษาหลุมสิวมายาวนานกว่า 7 ปี และไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมดูแลผิวหน้าของคุณด้วยเทคนิคและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ไม่ว่าคุณจะมีหลุมสิวลึกจากสิวที่เคยอักเสบ หรือรอยแผลเป็นที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นผลในระยะเวลาที่รวดเร็ว สร้างความมั่นใจให้คุณได้กลับมาอวดผิวสวย และหลงรักผิวตัวเองซ้ำ ๆ อีกครั้ง 

เรามีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่ Qiyomi Clinic คุณจะได้รับการดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการรักษาหลุมสิวโดยตรง มากกว่า 7 ปี พร้อมทั้งเป็นแพทย์เจ้าของคลินิกที่ใส่ใจในทุกเคส ไม่ใช่แค่รักษา แต่ยังให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา

เรามีโปรแกรมเฉพาะบุคคล (Personalized Acne Scars Program) เพราะหลุมสิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เราจึงออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ตอบโจทย์ปัญหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าคุณจะมีหลุมสิวมานานแค่ไหน หรือเป็นหลุมสิวลึกแบบไหน เราก็สามารถช่วยให้ผิวค่อย ๆ ตื้นขึ้นและเรียบเนียนขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

เรามีเทคโนโลยีทันสมัย ครบ จบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์รักษาหลุมสิว การกระตุ้นคอลลาเจน การใช้เข็มพิเศษ หรือเทคนิคเฉพาะทางอื่น ๆ เราเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเห็นผลจริงในระยะเวลาสั้น

หนึ่งในจุดเด่นของคิโยมิคลินิกคือการวางแผนการรักษาแบบ Step-by-step โดยแพทย์จะให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา วิเคราะห์สาเหตุของสิวแบบเจาะลึก ไม่ว่าจะมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ฮอร์โมน การใช้สกินแคร์ หรือปัญหาสะสมจากการรักษาที่ผิดวิธีมาก่อน เพราะที่นี่ไม่เน้นขายคอร์สรักษาแบบเหมา ๆ แต่จะให้คำแนะนำตามอาการจริง เช่น บางคนอาจเริ่มจากทายาและเลเซอร์เบา ๆ บางคนอาจต้องใช้ยากิน หรือทำหัตถการร่วมด้วยอย่างกดสิว ฉีดสิว หรือผลัดเซลล์ผิว 

Qiyomi Clinic ไม่ใช่แค่รักษาสิวธรรมดา แต่เป็นการดูแลแบบครบวงจร ด้วยมาตรฐานแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสิวโดยเฉพาะ และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผิวกลับมาสวยใสอย่างมั่นใจอีกครั้งค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

• สิวอุดตันหายเองได้ไหม?
  • สิวอุดตันบางครั้งสามารถหายเองได้ถ้าเราดูแลผิวดี ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้นานหรือมีการอักเสบ อาจกลายเป็นสิวชนิดอื่นหรือทิ้งรอยไว้ ดังนั้นควรดูแลและรักษาอย่างถูกวิธีจะดีกว่า

• สิวอุดตันสามารถบีบได้หรือไม่?
  • ไม่แนะนำให้บีบสิวอุดตันเอง เพราะเสี่ยงทำให้เกิดการอักเสบ แผลเป็น หรือเชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย ควรให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจัดการจะปลอดภัยกว่า

• ใช้แผ่นแปะสิวช่วยได้หรือไม่?
  • แผ่นแปะสิวช่วยดูดซับน้ำมันและสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้บ้าง เหมาะกับสิวที่มีหัวหนองหรือหัวเปิด แต่สำหรับสิวอุดตันลึก ๆ อาจช่วยได้ไม่เต็มที่ ต้องใช้วิธีรักษาอื่นร่วมด้วย

• การแต่งหน้าทำให้เกิดสิวอุดตันไหม?
  • เกิดได้ค่ะ ถ้าใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมอุดตันรูขุมขน หรือไม่ล้างหน้าให้สะอาดหลังแต่งหน้า สิ่งสกปรกและน้ำมันที่ตกค้างจะทำให้เกิดสิวอุดตันง่ายขึ้น

• สิวอุดตันหัวดำกับสิวอุดตันหัวขาวต่างกันอย่างไร?
  • สิวอุดตันหัวดำ คือสิวที่เปิดผิวหน้าด้านบน ทำให้น้ำมันที่อยู่ในรูขุมขนสัมผัสกับอากาศจนเปลี่ยนเป็นสีดำ

• สิวอุดตันหัวขาว คือสิวที่รูขุมขนยังปิดอยู่ น้ำมันและเซลล์ผิวถูกกักเก็บภายใน ทำให้เห็นเป็นตุ่มสีขาวเล็ก ๆ

• เลเซอร์รักษาสิวอุดตันได้หรือไม่?
  • ได้ค่ะ เลเซอร์บางชนิดช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยดำและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว แต่ต้องทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวและอาการของสิวของแต่ละคน